4 สาเหตุของปัญหากลิ่นปากที่คุณควรรู้

การสื่อสารหลักๆ ที่จำเป็นสำหรับชีวิตการทำงานก็ดี การเจรจาหรือการคุยเล่นกับทุกๆ คนนั้น…หากเรามีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากแล้วหล่ะก็…จะทำให้เราเสียความมั่นใจและคนรอบข้างจะหนีห่างกันอย่างแน่นอน วันนี้เราจึงอยากพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “4 สาเหตุของปัญหากลิ่นปากที่คุณควรรู้” ที่น่าสนใจกันครับ จะเป็นอย่างไรกันบ้างนั้น…เราไปชมกันดีกว่าครับ

กลิ่นปากส่งผลเสียอย่างไรบ้าง?

ไม่ได้ดูแลสุขภาพเหงือกและฟันอย่างเหมาะสม

เนื่องจากคราบพลัคที่สะสมรอบๆ ฟันของคุณเป็นสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นปาก เมื่อแบคทีเรียในคราบพลัคย่อยเศษอาหารในปากของคุณ แบคทีเรียจะปล่อยแก๊สที่ทำให้ลมหายใจของคุณมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ วิธีที่ดีที่สุดในการช่วยป้องกันปัญหานี้คือ การแปรงฟันวันละ 2 ครั้งด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ใช้ไหมขัดฟันเพื่อขจัดคราบพลัคและเศษอาหารที่ติดอยู่ในส่วนที่เข้าถึงได้ยากระหว่างซอกฟันของคุณออก

มีปัญหาสุขภาพเหงือก

กลิ่นปาก อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นอย่างหนึ่งของปัญหาสุขภาพเหงือก เนื่องจากมีสาเหตุมาจากการสะสมของคราบพลัครอบๆ ฟันของคุณ ถ้าไม่ขจัดคราบพลัคออกอาจก่อให้เกิดปัญหาเลือดออกขณะแปรงฟันและเหงือกบวม ซึ่งเป็นอาการของปัญหาเหงือกอักเสบ (gingivitis) หากปล่อยทิ้งไว้ อาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพเหงือกที่ร้ายแรงยิ่งขึ้น เพื่อช่วยป้องกันปัญหาเหงือกอักเสบ ให้แปรงฟันวันละ 2 ครั้งด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ เช่น พาโรดอนแทกซ์ ซึ่งเป็นสูตรพิเศษที่ช่วยลดคราบพลัคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คนสูบบุหรี่หรือเคี้ยวยาสูบ

การสูบบุหรี่ ไปป์ การใช้ยานัตถุ์หรือการเคี้ยวยาสูบ ทั้งหมดนี้จะทำให้ลมหายใจของคุณมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดคราบบนผิวฟันและอาจทำให้คุณมีความเสี่ยงสูงที่จะมีปัญหาสุขภาพเหงือก คุณควรเลิกสูบบุหรี่เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี เพื่อฟันขาวอย่างเป็นธรรมชาติและลมหายใจสดชื่นยิ่งขึ้น

รับประทานอาหารที่ทำให้มีกลิ่นปาก

หากรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น กระเทียม หัวหอม และเครื่องเทศต่างๆ ดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สิ่งเหล่านี้อาจทำให้ลมหายใจของคุณมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ชั่วคราว วิธีที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้มีกลิ่นปากจากอาหารเหล่านี้คือหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีกลิ่นแรงเพื่อให้สุขภาพปากดีขึ่นครับ

สุขภาพช่องปากที่ดีเป็นอย่างไร?

สุขภาพช่องปากที่ดีนั้น สามารถสังเกตได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น ไม่มีกลิ่นปาก ฟันขาวสะอาดไม่มีคราบหินปูนเกาะฝั่งแน่น เหงือกและรากฟันยึดติดกันอย่างแข็งแรงและไม่มีอาการเจ็บ หรือสามารถสังเกตได้จากช่วงขณะแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟันนั้น ไม่ควรมีเลือดออกนั้นเอง หากพบว่ามีกลิ่นปาก เหงือกมีอาการเจ็บหรือเลือกออกขณะแปรงฟันนั้น สิ่งเหล่านี้คือสัญญาณของปัญหาสุขภาพช่องปากแล้วหล่ะครับ

ปัญหาสุขภาพช่องปากที่พบบ่อย

ปัญหาสุขภาพของช่องปากนั้น มักจะเกิดขึ้นในวัยรุ่นมากกว่าวัยทำงาน เนื่องมาจากวิธีการใช้ชีวิตที่โลดแล่น ผจญภัยหรือทำอะไรหลายๆ อย่าง อย่างสนุกสนานเต็มที่ จึงอาจทำให้ละเลยการดูแลสุขภาพช่องปากของตนได้ ปัญหาสุขภาพช่องปากที่มักจะเกิดขึ้นในวัยนี้ สามารถยกตัวอย่างได้ดังนี้

–           กลิ่นปาก เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาจจะมีสาเหตุมาจากในช่องปากอย่างเดียวหรือมาจากอวัยวะในระบบทางเดินหายใจและทางเดินอาหารได้อีกด้วย ซึ่งการมีกลิ่นปากอาจส่งผลต่อความมั่นใจของวัยรุ่นได้

–           ฟันผุ มักเกิดจากการขาดการดูแลเอาใจใส่หรือละเลยการแปรงฟันหรืออาจทำความสะอาดฟันได้ไม่ทั่วถึง อีกทั้งยังไม่ได้ใช้ไหมขัดฟัน กำจัดเศษอาหารที่คงเหลืออย่างสม่ำเสมอ ทำให้เกิดฟันผุตามร่องฟันได้ง่ายนั้นเอง

–           ฟันเหลือง สาเหตุมักเกิดขึ้นกับผู้ที่สูบบุหรี่ ดื่มชา กาแฟ จนเกิดคราบที่เหงือกและฟัน สามารถป้องกันได้ด้วยการลดกิจกรรมหรือเปลี่ยนการกินของเหล่านี้ ร่วมกับการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “4 สาเหตุของปัญหากลิ่นปากที่คุณควรรู้” ที่พวกเราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันมนบทความข้างต้นกันครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยกันนะครับ

วิธีเริ่มต้นทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่คุณควรรู้

ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง คือธุรกิจที่หลายคนกำลังใฝ่ฝัน นอกจากจะได้สร้างบ้านกับมือของเราแล้ว หากงานของเราออกมาดีลูกค้าเลือกที่จะสร้างบ้านกับเราเรื่อย ๆ ซึ่งนั่นหมายความว่าเราสามารถสร้างรายได้จากธุรกิจดังกล่าวได้เป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าการทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างนั้นไม่ได้มีแต่การก่ออิฐฉาบปูนเท่านั้น ยังมีเรื่องของเอกสารต่าง ๆ ที่ผู้รับเหมาต้องเรียนรู้อีก ฉะนั้นแล้ววันนี้เราจะมาแนะนำแต่ละขั้นตอนให้สำหรับคนที่อยากจะทำธุรกิจดังกล่าวได้ศึกษาไปพร้อมกัน  

วิธีเริ่มต้นธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่คุณเองก็ทำได้  

1. เปิดใบเสนอราคา  

สิ่งแรกที่คุณต้องเรียนรู้เลยในการเปิดธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ก็คือการทำใบเสนอราคาออกมาให้ได้ โดยงานที่ต้องใช้ใบเสนอราคานั้นจะต้องเป็นงานที่มีมูลค่าสูง ซึ่งผู้ว่าจ้างนั้นต้องการใบดังกล่าวเพื่อใช้ในการเปรียบเทียบราคาจากผู้รับเหมาเจ้าอื่น ๆ โดยใบเสนอราคานั้นจะประกอบไปด้วย  

– ชื่อที่อยู่ลูกค้า  

– รายละเอียดของผู้รับเหมา เบอร์โทรติดต่อ 

– รายละเอียดงานควรระบุไว้ว่าควรทำอะไรบ้าง หรือจะเอาให้ดีก็ควรจะลงวันที่คาดว่างานจะเสร็จสิ้นไปด้วย  

– เงื่อนไขการชำระเงิน  

– อายุของใบเสนอราคา อย่างเช่น ใบเสนอราคาใบนี้ใช้เสนอภายใน 30 วันเท่านั้น เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ารีบตัดสินใจในการเลือกจ้างงาน  

2. ต้นทุนการรับเหมาต้องเก็บเอกสารให้ครบถ้วน 

เมื่อเริ่มต้นรับงานผู้รับเหมาจะต้องเก็บเอกสาร และค่าอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมไปถึงค่าจ้างช่างที่มาทำงานในโครงการนี้ โดยวิธีการเก็บรักษานั้นก็ไม่ยากเลย โดยคุณต้องแบ่งเอกสารออกเป็น 2 ส่วนด้วยกันคือ  

– ค่าอุปกรณ์ก่อสร้าง ทุกั้งที่ซื้อของ โดยออกเป็นใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินจากซัพพลายเออร์มาเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อใช้ในการทำบัญชี  

– ค่าจ้างเหมาบริการ เช่นการจ้างเหมาช่าง หรือการจากซัพพลายเออร์ โดยเก็บเป็นใบเสร็จรับเงิน หรือใบสำคัญรับเงอน และทำเอกสารภาษีหัก ณ ที่จ่ายทุกครั้ง เพื่อส่งให้ซัพพลายเออร์ และยื่นจ่ายภาษีในครั้งถัดไป  

3. การวางบิลตามงวดงานที่เสร็จสิ้น  

ความยากอีกหนึ่งอย่างของงานรับเหมาก็คือการวางบิลแจ้งหนี้ ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าลูกค้าไม่สามารถจ่ายให้เราได้ทีเดียว เพราะฉะนั้นแล้วคุณควรทำใบแจ้งหนี้เมื่อแต่ละงวดเมื่องานเสร็จสิ้น เป็นเอกสารที่ยืนยันได้ว่าเรามีลูกหนี้เกิดขึ้น 

การทำธุรกิจก่อสร้างแบบมือโปรนั้นนอกจากจะสร้างบ้านให้ออกมาสวยงามแล้ว ยังต้องรู้จักการทำเอกสารต่าง ๆ อย่างเป็นระบบอีกด้วย และสิ่งสำคัญเลยก็คือการควบคุมต้นทุนการก่อสร้างให้อยู่ในงบประมาณที่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยาก แต่หากทำเป็นแล้วคุณก็จะสามารถสร้างกำไรจากธุรกิจนี้ได้เป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว นี่คือความสำคัญทั้งหมดของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ที่คุณควรรู้เอาไว้

ประกันชั้น 3 ราคาถูก ให้ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอก มีความหมายว่าอย่างไร?

ก่อนที่คุณจะซื้อรถยนต์คุณจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า เมื่อซื้อรถยนต์มาแล้วจำเป็นต้องทำประกันภัยรถยนต์ทุกคัน ซึ่งจะมีทั้งประกันภัยภาคบังคับหรือพ.ร.บ. ที่มีการบังคับให้คุณต้องทำตามกฎหมาย และประกันภาคสมัครใจที่คุณจะทำหรือไม่ทำก็ได้ ทั้งนี้ประกันภาคสมัครใจจะเป็นอีกหนึ่งประเภทที่ทุกท่านสามารถเลือกประเภทได้ตามต้องการ ทั้งนี้หากเป็นรถเก่าหรือผู้ขับขี่มีความชำนาญในการขับขี่อยู่แล้ว จะสามารถทำประกันชั้น 3 ราคาถูกได้เช่นเดียวกัน เพราะประกันชั้น 3 จะให้การครอบคลุมเฉพาะบุคคลภายนอกเมื่อเกิดอุบัติเหตุและคุณเป็นฝ่ายผิด แต่ให้การคุ้มครองบุคคลภายนอกคืออะไร มีการคุ้มครองอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย

ความเสียหายต่อบุคคลภายนอกที่ประกันชั้น 3 ราคาถูกให้ความคุ้มครองคืออะไร

ความเสียหายต่อบุคคลภายนอกที่ประกันจะให้การคุ้มครองนั้น จะหมายถึงความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือการบาดเจ็บต่อบุคคลอื่น รวมทั้งในกรณีเสียชีวิตที่เกิดจากอุบัติเหตุด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ประกันชั้น 3 ราคาถูกจะไม่มีการคุ้มครองที่ครอบคลุมไปถึงรถยนต์ของคุณ แต่สำหรับการคุ้มครองบุคคลภายนอกนั้น จากสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กรณีด้วยกัน คือ

  • ความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก :  ความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกนั้น จะมีการคุ้นครองที่คล้ายคลึงกับการคุ้มครองเหตุชน และจะคุ้มครองเฉพาะพาหนะและทรัพย์สินของบุคคลอื่น ๆ แต่จะไม่ให้การคุ้มครองทุกอย่างของฝ่ายผู้รับประกัน
  • การบาดเจ็บของบุคคลภายนอก : ในส่วนนี้จะต้องบอกก่อนเลยว่า ประกันในทุกประเภทรวมทั้งประกันรถยนต์ภาคบังคับต่างให้การคุ้มครองในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บของบุคคลภายนอก หรือบุคคลที่สามที่เกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ทั้งสิ้น หรืออธิบายง่าย ๆ ว่า หากคุณถูกรถชนขณะที่คุณกำลังข้ามทางม้าลายหรือถนน นอกจากที่คุณจะได้รับค่าเสียหายจากคนขับรถแล้ว ยังสามารถขอค่าชดเชยในส่วนนี้จากพ.ร.บ. ได้อีกด้วย

ทั้งนี้หากเกิดกรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของตนเอง อย่างเช่น การโดยทุบทำลาย การชนแล้วหนี หรือกรณีรถชนต้นไม้ ชนเสาไฟฟ้า หรือแม้แต่การถอยรถชนฟุตบาท ในส่วนนี้ประกันชั้น 3 จะไม่ให้การคุ้มครองในทุกกรณี คุณจะต้องเสียค่าใช้จ่ายและค่าซ่อมแซมรถในส่วนนี้ด้วยตนเอง

ประกันชั้น 3 ราคาถูก แม้ว่าจะมีราคาถูกกว่าประกันชั้นอื่น ๆ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการคุ้มครองที่ไม่ให้ความครอบคลุมเท่าไหร่นัก แถมยังมีการคุ้มครองให้เพียงคู่กรณีหรือบุคคลภายนอกอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนรถของคุณจะต้องเป็นผู้ซ่อมแซมด้วยตนเอง ดังนั้นในกรณีนี้จึงเหมาะสำหรับรถเก่าที่มีราคาไม่สูงเท่าไหร่นัก และผู้ขับขี่มีความชำนาญมากเพียงพอที่จะมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุน้อยที่สุด

โรคที่ส่งผลต่อกลิ่นปาก

หากเรามีกลิ่นปาก จะทำให้ความมั่นใจของเราทดถอยเป็นอย่างมากเลยหล่ะครับ เพราะจะทำให้เราเป็นกังวลต่อการที่จะสนมนากับทุกๆ คนรอบข้างนั้นเอง วันนี้เราจะพาทุกๆ ท่านไปทำความรู้จักกับ “โรคที่ส่งผลต่อกลิ่นปาก” และสาระน่ารู้เกี่ยวกับ “กลิ่นปาก” ที่น่าสนใจ จะมีอะไรบ้างนั้น เราไปอ่านกันดีกว่าครับ

สาเหตุของการเกิดกลิ่นปากที่สำคัญ

สาเหตุจากภายนอกช่องปาก พบได้ค่อนข้างน้อย เพียงร้อยละ 10 ส่วนใหญ่เป็นปัญหามาจากความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ หรือระบบทางเดินอาหารส่วนบน เช่น โรคไซนัสอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ โรคกรดไหลย้อน เป็นต้น คราบจุลินทรีย์บนลิ้น (ฝ้าสีขาว) เป็นแหล่งกำเนิดหลักของกลิ่น เนื่องจากลิ้นมีพื้นที่ผิวสัมผัสมากกว่าอวัยวะอื่นๆ ในช่องปาก ประกอบกับพื้นผิวของลิ้นเป็นช่องหรือซอกที่ทำให้เกิดสภาวะที่มีออกซิเจนน้อย เหมาะกับการสะสมและเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และร่องหรือซอกลิ้นยังปกป้องแบคทีเรียจากการชะล้างของน้ำลาย นอกจากนี้ ลิ้นยังสามารถรับสารอาหารที่ผ่านเข้ามาในช่องปากได้ง่าย ซึ่งสารอาหารจะถูกย่อยสลายจนเกิดก๊าซที่มีกลิ่นเหม็น

สาเหตุจากภายในช่องปาก เป็นสาเหตุหลักของการเกิดกลิ่น (ร้อยละ 90) เกิดจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะแบคทีเรียแกรมลบที่ไม่ใช้ออกซิเจน ซึ่งมักพบที่ร่องเหงือกลึก คราบจุลินทรีย์บนตัวฟันหรือลิ้น และการย่อยสลายสารอินทรีย์ต่างๆ ที่อยู่ภายในช่องปาก โดยเฉพาะคราบโปรตีนซึ่งก่อให้เกิดสารระเหยที่มีกลิ่นเหม็น

โรคที่ส่งผลต่อการเกิดกลิ่นปาก

สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่

โรคระบบทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งได้แก่ ไซนัสอักเสบ โรคต่อมทอลซินอักเสบ เป็นต้น

โรคระบบทางเดินอาหารและทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น โรคที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร โรคปอด โรคระบบขับถ่ายมีปัญหา

4 สิ่งที่ทำให้เกิดกลิ่นปากได้

●มีปัญหาสุขภาพเหงือก กลิ่นปาก อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นอย่างหนึ่งของปัญหาสุขภาพเหงือก เนื่องจากมีสาเหตุมาจากการสะสมของคราบพลัครอบๆ ฟันของคุณ ถ้าไม่ขจัดคราบพลัคออกอาจก่อให้เกิดปัญหาเลือดออกขณะแปรงฟันและเหงือกบวม ซึ่งเป็นอาการของปัญหาเหงือกอักเสบ (gingivitis) หากปล่อยทิ้งไว้ อาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพเหงือกที่ร้ายแรงยิ่งขึ้น เพื่อช่วยป้องกันปัญหาเหงือกอักเสบ (gingivitis) ให้แปรงฟันวันละ 2 ครั้งด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ เช่น พาโรดอนแทกซ์ ซึ่งเป็นสูตรพิเศษที่ช่วยลดคราบพลัคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

●อาหารที่ดื่มและรับประทาน ถ้าคุณรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น กระเทียม หัวหอม และเครื่องเทศต่างๆ ดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สิ่งเหล่านี้อาจทำให้ลมหายใจของคุณมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ชั่วคราว วิธีที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้มีกลิ่นปากจากอาหารเหล่านี้คือหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีกลิ่นแรง

●คุณเป็นผู้สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ ไปป์ การใช้ยานัตถุ์หรือการเคี้ยวยาสูบ ทั้งหมดนี้จะทำให้ลมหายใจของคุณมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดคราบบนผิวฟันและอาจทำให้คุณมีความเสี่ยงสูงที่จะมีปัญหาสุขภาพเหงือก คุณควรเลิกสูบบุหรี่เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี เพื่อฟันขาวอย่างเป็นธรรมชาติและลมหายใจสดชื่นยิ่งขึ้น

●คุณไม่ได้ดูแลเหงือกและฟันของคุณอย่างเหมาะสม คราบพลัคที่สะสมรอบๆ ฟันของคุณเป็นสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นปาก เมื่อแบคทีเรียในคราบพลัคย่อยเศษอาหารในปากของคุณ แบคทีเรียจะปล่อยแก๊สที่ทำให้ลมหายใจของคุณมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ วิธีที่ดีที่สุดในการช่วยป้องกันปัญหานี้คือ การแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “โรคที่ส่งผลต่อกลิ่นปาก” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความนี้ข้างต้นนี้ หวังว่าจะช่วยทุกๆ ท่านที่กำลังประสบปัญหากลิ่นปากกันนะครับ

ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับกลิ่นปาก

กลิ่นปาก เป็นสิ่งที่ใครหลายคนไม่ต้องการให้เกิดกับตนเอง เพราะเป็นสิ่งที่จะทำให้เราเสียบุคคลิก ใครมาคุยด้วยก็จะเกิดความกังวล ทำให้เกิดความอับอายได้ วันนี้เราจะพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับกลิ่นปาก” และสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดกลิ่นปากครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันเล้ยย!!

สาเหตุการเกิดโรคกลิ่นปาก

สาเหตุที่สำคัญและพบได้บ่อยที่สุดของกลิ่นปากนั้นก็คือ การมีฝ้าขาวบนลิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โคนลิ้นด้านใน สำหรับสาเหตุอื่นๆในช่องปากยังมีอีกมากมาย เช่น ฟันผุ ยิ่งฟันผุเป็นรูลึก ยิ่งมีกลิ่นเหม็นมาก หรือมีเศษอาหารตกค้างอยู่ตามซอกฟัน โรคเหงือกอักเสบซึ่งเกิดจากการแปรงฟันไม่สะอาด ทำให้มีแผ่นคราบฟันและหินปูนสะสม หากไม่ได้รับการรักษาโรคเหงือกอักเสบก็จะลุกลามมากขึ้นกลายเป็นโรคปริทันต์อักเสบซึ่งจะมีกลิ่นเหม็นรุนแรงยิ่งขึ้น

4 ตัวการที่ทำให้มีกลิ่นปาก

คุณไม่ได้ดูแลเหงือกและฟันของคุณอย่างเหมาะสม คราบพลัคที่สะสมรอบๆ ฟันของคุณเป็นสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นปาก เมื่อแบคทีเรียในคราบพลัคย่อยเศษอาหารในปากของคุณ แบคทีเรียจะปล่อยแก๊สที่ทำให้ลมหายใจของคุณมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ วิธีที่ดีที่สุดในการช่วยป้องกันปัญหานี้คือ การแปรงฟันวันละ 2 ครั้งด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ใช้ไหมขัดฟันเพื่อขจัดคราบพลัคและเศษอาหารที่ติดอยู่ในส่วนที่เข้าถึงได้ยากระหว่างซอกฟันของคุณออก

คุณอาจกำลังจะมีปัญหาสุขภาพเหงือก กลิ่นปาก อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นอย่างหนึ่งของปัญหาสุขภาพเหงือก เนื่องจากมีสาเหตุมาจากการสะสมของคราบพลัครอบๆ ฟันของคุณ ถ้าไม่ขจัดคราบพลัคออกอาจก่อให้เกิดปัญหาเลือดออกขณะแปรงฟันและเหงือกบวม ซึ่งเป็นอาการของปัญหาเหงือกอักเสบ (gingivitis) หากปล่อยทิ้งไว้ อาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพเหงือกที่ร้ายแรงยิ่งขึ้น

เป็นผู้สูบบุหรี่หรือเคี้ยวยาสูบ การสูบบุหรี่ ไปป์ การใช้ยานัตถุ์หรือการเคี้ยวยาสูบ ทั้งหมดนี้จะทำให้ลมหายใจของคุณมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดคราบบนผิวฟันและอาจทำให้คุณมีความเสี่ยงสูงที่จะมีปัญหาสุขภาพเหงือก คุณควรเลิกสูบบุหรี่เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี เพื่อฟันขาวอย่างเป็นธรรมชาติและลมหายใจสดชื่นยิ่งขึ้น

มีปัญหาสุขภาพร่างกาย พบได้ไม่บ่อยนักที่ปัญหาสุขภาพร่างกายบางอย่างจะทำให้ลมหายใจของคุณมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ปัญหาอย่างหนึ่งคือ ‘ปากแห้ง’ หรือชื่อทางการแพทย์คือ ‘ซีรอสโทเมีย (xerostomia)’ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อมีการขัดขวางการไหลของน้ำลายในปาก ซึ่งสามารถทำให้ลมหายใจมีกลิ่น

3 ความเชื่อผิดที่เกี่ยวกับกลิ่นปาก

●อมน้ำเกลือช่วยรักษาการอักเสบและลดกลิ่นปากได้ ขอบอกเลยว่าไม่ถูกเสียทีเดียวครับ เพราะน้ำเกลือจะช่วยชะลอความเจ็บหรือการอักเสบได้ แต่ไม่สามารถลดกลิ่นปากได้นั้นเองครับ

●จัดฟันทำให้ไม่เกิดกลิ่นปาก หลายท่านอาจจะคิดว่าเมื่อเราจัดฟัน จะทำให้ลดโอกาสการติดขอเศษอาหาร ทำให้กลิ่นปากลดลง อันนี้จริงบางส่วนครับ แต่สิ่งที่สำคัญคือ การกำจัดคราบหินปูน ที่เป็นตัวการหรือสิ่งสะสมของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุจริงๆ ของกลิ่นปากนั้นเอง

●ฟันขาวสวยคือคนที่ไม่มีกลิ่นปาก ต้องขอบอกว่ากลิ่นปากไม่ได้สัมพันธ์โดตรงกับสีของฟันครับ เพราะฟันเหลืองสามารถเกิดได้ตามธรรชาติของมนุษย์ ไม่มีใครฟันขาวจั๊วะมาตั้งแต่เกิดนั้นเอง

และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับกลิ่นปาก” และความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ “การเกิดกลิ่นปาก”ที่เรานำมาฝากทุกๆ ท่าน เราหวังว่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีและทำให้ท่านได้ความรู้มากขึ้นครับ

ฟันขาว ต้องบำรุงอย่างไร?

หากพูดถึงสิ่งที่จะทำให้รอยยิ้มของเรามีสเน่ห์ได้นั้น…ทุกๆ ท่านก้คงจะคิดถึง “ฟันสะอาด ขาวเรียงตัวกันสวย” กันใช่มั้ยหล่ะครับ ซึ่งเป็นคำตอบที่ถูกต้องในส่วนใหญ่อย่างแน่นอน เพราะรอยยิ้มที่ดี มักจะมาคู่กับฟันขาวสะอาดนั้นเอง วันนี้เราจะพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “ฟันขาว ต้องบำรุงอย่างไร?” กันครับ จะต้องทำอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันเล้ย!!!

สาระน่ารู้เกี่ยวกับ ฟัน

ฟันเป็นอวัยวะพิเศษที่เจริญมาจากเนื้อเยื่อชั้นนอก (Ectoderm) เช่นเดียวกับผิวหนังหรือเกร็ดของปลา ฟันมี 2 ชุด คือฟันแท้และฟันน้ำนม ซึ่งมีโครงสร้างคล้าย ๆ กันดังนี้

–  มีชั้นเคลือบฟัน  (Enamel)  เป็นส่วนที่อยู่นอกสุดและมีความแข็งที่สุดของฟัน  ทำหน้าที่รับน้ำหนักในการบดเคี้ยว มีโครงสร้างเป็นผลึก ไม่มีเส้นเลือดและเส้นประสาท จึงเป็นส่วนที่ไม่ได้รับความรู้สึก เวลาที่ฟันเริ่มผุจึงไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ

– ชั้นเนื้อฟัน (Dentine) เป็นส่วนที่อยู่ถัดจากเข้ามา ประกอบด้วยท่อเล็ก ๆ จำนวนมาก ซึ่งเป็นที่รวมของเส้นประสาทรับความรู้สึก ดังนั้นเวลาฟันผุถึงชั้นนี้ ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการเสียวฟัน

– โพรงประสาทฟัน   (Pulp) คือ โพรงช่องว่างภายในฟัน เป็นที่อยู่ของเส้นประสาท และเส้นเลือดที่มาหล่อเลี้ยงตัวฟัน ทำหน้าที่ในการรับความรู้สึกร้อน เย็น ปวด เจ็บ กรณีที่ฟันผุมาถึงชั้นนี้ จะไม่สามารถอุดฟันได้

– ชั้นร่องเหงือก (Gingival crevice) คือ ร่องระหว่างตัวฟันกับขอบเหงือก ปกติจะมีขอบบาง มีความลึกประมาณ 2 มิลลิเมตร แต่ถ้ามีโรคเหงือกอักเสบ หรือเป็นรำมะนาด อาจมีอาการบวม ทำให้ร่องนี้ลึกขึ้น และเกิดการอักเสบมากขึ้นได้

– เหงือก (Gingiva) คือ ส่วนเนื้อเยื่อที่หุ้มตัวฟัน และกระดูกขากรรไกรไว้

– เคลือบรากฟัน (Cementum) เป็นชั้นบาง ๆ คลุมเนื้อฟันบริเวณรากฟันไว้ แตกต่างจากเคลือบฟันตรงที่มีความแข็งแรงน้อยกว่า ปกติจะฝังตัวอยู่ในกระดูก แต่ถ้ามีเหงือกร่น หรือเกิดโรครำมะนาด อาจทำให้ส่วนนี้สัมผัสกับน้ำและอากาศ เกิดอาการเสียวฟันได้ กระดูกเบ้ารากฟัน (Alveolar bone) คือส่วนของกระดูกที่รองรับรากฟัน

ฟันเหลืองเกิดจากอะไร?

สาเหตุหลัก 2 ประการที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนสีในเคลือบฟัน enamel สีขาวอมชมพูของคุณนั้นมาจาก

พันธุกรรม (บางครั้งฟันเหลืองก็ส่งต่อมาจากพันธุกรรมพ่อแม่)

การดูแลรักษาฟันที่ยังไม่ถูกวิธี อาทิเช่น ไม่แปรงฟันเป็นประจำ การแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่มีสาร whitening (สารทำให้ฟันขาว) ยังสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนสีได้ เนื่องจากอาจทำให้ชั้นเคลือบฟันด้านนอกสึกกร่อน ซึ่งจะทำให้คราบฝังลึกเข้าไปในผิวฟันของคุณ ทำให้ดูเหลืองขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

อยากฟันขาว ต้องทำอย่างไรบ้าง?

1.  ฟอกสีฟัน การฟอกสีฟันแก้ฟันเหลืองถือว่าเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นวิธีที่สะดวกและเห็นผลรวดเร็ว โดยปกติแล้วการจะมีอยู่ 2 วิธีคือฟอกสีฟันโดยทันตแพทย์ที่ใช้ผลิตภัณฑ์สารฟอกสีที่มีความเข้มข้นสูง

2.  ทำวีเนียร์ การทำวีเนียร์แก้ปัญหาปัญหาฟันเหลืองได้เป็นอย่างดีอีกเช่นกัน ซึ่งวิธีนี้จะเหมาะสำหรับคนที่มีสีฟันที่ค่อนข้างเข้มคล้ำ แต่ไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบนอนกัดฟันหรือชอบใช้ฟันหน้ากัดอาหารจำพวกของแข็ง

3.  การขูดหินปูน+การขัดฟัน เนื่องจากปัญหาฟันเหลืองนั้นเกิดมาจากคราบหินปูนหรือแบคทีเรียที่สะสมอยู่ดังนั้นการกำจัดคราบหินปูนออกถือว่าเป็นวิธีที่ช่วยให้ฟันของเราขาวขึ้นอย่างชัดเจน

และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “ฟันขาว ต้องบำรุงอย่างไร?” ที่เรานำมากฝากทุกๆ ท่านกันในบทความนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กันนะครับ

ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ ในการช่วยลดกลิ่นปาก

สิ่งรองที่จะส่งผลต่อบุคคลิกการภาพต่อการสนทนาระหว่างกันที่จะทำให้เกิดผลดีและผลเสียอย่างที่คาดไม่ถึงนั้นก็คือ “กลิ่นปาก” หากเรามีกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์ คู่สนทนาของเราจะตีตัวออกห่างอย่างแน่นอนครับในวันนี้เราจะขอพาท่านผู้อ่านไปพบกับ “ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ ในการช่วยลดกลิ่นปาก” กันครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันเล้ย!!

สาเหตุของการเกิดกลิ่นปาก

สาเหตุของการเกิดกลิ่นมาจาก 2 สาเหตุใหญ่ ซึ่งได้แก่

สาเหตุจากภายในช่องปาก เป็นสาเหตุหลักของการเกิดกลิ่น (ร้อยละ 90) เกิดจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะแบคทีเรียแกรมลบที่ไม่ใช้ออกซิเจน ซึ่งมักพบที่ร่องเหงือกลึก คราบจุลินทรีย์บนตัวฟันหรือลิ้น และการย่อยสลายสารอินทรีย์ต่างๆ ที่อยู่ภายในช่องปาก โดยเฉพาะคราบโปรตีนซึ่งก่อให้เกิดสารระเหยที่มีกลิ่นเหม็น

สาเหตุจากภายนอกช่องปาก พบได้ค่อนข้างน้อย เพียงร้อยละ 10 ส่วนใหญ่เป็นปัญหามาจากความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ หรือระบบทางเดินอาหารส่วนบน เช่น โรคไซนัสอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ โรคกรดไหลย้อน เป็นต้น คราบจุลินทรีย์บนลิ้น (ฝ้าสีขาว) เป็นแหล่งกำเนิดหลักของกลิ่น เนื่องจากลิ้นมีพื้นที่ผิวสัมผัสมากกว่าอวัยวะอื่นๆ ในช่องปาก ประกอบกับพื้นผิวของลิ้นเป็นช่องหรือซอกที่ทำให้เกิดสภาวะที่มีออกซิเจนน้อย เหมาะกับการสะสมและเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และร่องหรือซอกลิ้นยังปกป้องแบคทีเรียจากการชะล้างของน้ำลาย นอกจากนี้ ลิ้นยังสามารถรับสารอาหารที่ผ่านเข้ามาในช่องปากได้ง่าย ซึ่งสารอาหารจะถูกย่อยสลายจนเกิดก๊าซที่มีกลิ่นเหม็น

5 ผลิตภัณฑ์ลดกลิ่นปาก

● สเปรย์ระงับกลิ่นปาก  เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้ง่ายๆ เพียงแค่หยิบบิดแล้วพ่นเค้าสู่ปากของท่าน มีหลากหลายกลิ่นและรสชาติให้ได้ลองใช้กันครับ

● ยาสีฟันสมุนไพร เป็นผลิตภัณฑ์พื้นฐานที่ใช้ในการทำความสะอาดช่องปากของคุณให้ปราศจากสิ่งหมักหมมนั้นเองครับ

● ลูกอมลดกลิ่นปาก เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้กินหลังรับประทานอาหารที่มีกลิ่นหรือรสจัด เพื่อกำจัดกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์ครับ

● น้ำยาบ้วนปาก สามารถใช้คู่กับการแปรงฟัน ซึ่งมักจะใช้หลังการแปรงฟัน เพื่อความสะอาดอย่างหมดจดนั้นเอง

● หมากฝรั่งระงับกลิ่นปาก เพียงแค่แกะแล้วโยนเข้าปาก พร้อมกับการเคี้ยวเรื่อยๆ ก็ช่วยทำให้กิล่นปากของท่านลดลงได้อย่างรวดเร็วแล้วหล่ะครับ

พฤติกรรมที่ส่งผลให้เกิดกลิ่นปาก

1.การไม่รับประทานอาหารเช้า ส่งผลต่อร่างกายหลายอย่าง ในเรื่องของกลิ่นปากก็มีส่วน เพราะต่อมน้ำลายไม่ได้ถูกกระตุ้นจากการเคี้ยว หรือกลืนอาหาร ทำให้ปากแห้ง และเกิดกลิ่นปากได้ แม้ว่าจะแปรงฟันก่อนออกจากบ้านก็ตาม

2.ดื่มกาแฟปริมาณมาก นอกจากจะทิ้งคราบไว้ตามซอกฟันแล้ว ยังเป็นที่มาของกลิ่นปากด้วย เพราะทำให้ปากแห้ง ดังนั้นควรลดปริมาณให้อยู่ที่วันละ 1-2 แก้ว และดื่มน้ำเปล่าตาม 1-2 แก้วต่อ 1 แก้วกาแฟ เพื่อไม่ให้ปากแห้งจนเกินไป

3.แบคทีเรียในช่องปาก มีทั้งตัวที่มีประโยชน์ และตัวที่ไม่ดี ซึ่งตัวที่ไม่ดีนี้เป็นตัวการทำให้เกิดกลิ่นปากได้ เช่น แบคทีเรียเอชไพโลไร เป็นแบคทีเรียที่สร้างกลิ่นปาก ซ่อนตัวอยู่ที่ลิ้น เพราะฉะนั้นเมื่อแปรงฟัน อย่าลืมแปรงลิ้นด้วยทุกครั้ง

4.โรคระบบทางเดินหายใจ หรือทางเดินอาหารส่วนบน เช่น ไซนัสอักเสบ ต่อมทอนซิล หรือกรดไหลย้อน ซึ่งโรคเหล่านี้พากลิ่นขึ้นมาจากกระเพาะอาหารด้วย

และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ ในการช่วยลดกลิ่นปาก” พร้อมกับศึกษาสาเหตุเกี่ยวส่งผลทำให้เกิดกลิ่นปากที่เราได้หามากฝากทุกๆ ท่าน เราหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆ ท่านนะครับ

10 อาหารที่ส่งผลแย่ต่อกลิ่นปาก

“กลิ่นปากไม่ใช่เรื่องเล่น” ไม่ใช่ประโยคที่เกินตัวหรือเกินจริงเลยหล่ะครับ เพราะการมีกลิ่นปากทำให้เราเสียบุคคลิก เป็นที่พูดถึงในสังคมเกี่ยวกับปัญหานี้ได้ ดังนั้นการไม่มีกลิ่นปากจะเป็นการดีที่สุดครับ บทความนี้จะขอพาท่านผู้อ่านไปพบกับ “10 อาหารที่ส่งผลแย่ต่อกลิ่นปาก” กันครับ

ทำความรู้จักกับปัญหา กลิ่นปาก

สาเหตุจากภายในช่องปาก เป็นสาเหตุหลักของการเกิดกลิ่น (ร้อยละ 90) เกิดจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรียโดยเฉพาะแบคทีเรียแกรมลบที่ไม่ใช้ออกซิเจน ซึ่งมักพบที่ร่องเหงือกลึก คราบจุลินทรีย์บนตัวฟันหรือลิ้น และการย่อยสลายสารอินทรีย์ต่างๆ ที่อยู่ภายในช่องปาก โดยเฉพาะคราบโปรตีนซึ่งก่อให้เกิดสารระเหยที่มีกลิ่นเหม็น

สาเหตุจากภายนอกช่องปาก พบได้ค่อนข้างน้อย เพียงร้อยละ 10 ส่วนใหญ่เป็นปัญหามาจากความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ หรือระบบทางเดินอาหารส่วนบน เช่น โรคไซนัสอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ โรคกรดไหลย้อน เป็นต้น คราบจุลินทรีย์บนลิ้น (ฝ้าสีขาว) เป็นแหล่งกำเนิดหลักของกลิ่น เนื่องจากลิ้นมีพื้นที่ผิวสัมผัสมากกว่าอวัยวะอื่นๆ ในช่องปาก ประกอบกับพื้นผิวของลิ้นเป็นช่องหรือซอกที่ทำให้เกิดสภาวะที่มีออกซิเจนน้อย เหมาะกับการสะสมและเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และร่องหรือซอกลิ้นยังปกป้องแบคทีเรียจากการชะล้างของน้ำลาย นอกจากนี้ ลิ้นยังสามารถรับสารอาหารที่ผ่านเข้ามาในช่องปากได้ง่าย ซึ่งสารอาหารจะถูกย่อยสลายจนเกิดก๊าซที่มีกลิ่นเหม็น

ยกตัวอย่างพฤติกรรมที่ส่งผลต่อกลิ่นปาก

การไม่รับประทานอาหารเช้า ส่งผลต่อร่างกายหลายอย่าง ในเรื่องของกลิ่นปากก็มีส่วน เพราะต่อมน้ำลายไม่ได้ถูกกระตุ้นจากการเคี้ยว หรือกลืนอาหาร ทำให้ปากแห้ง และเกิดกลิ่นปากได้ แม้ว่าจะแปรงฟันก่อนออกจากบ้านก็ตาม

ดื่มกาแฟปริมาณมาก นอกจากจะทิ้งคราบไว้ตามซอกฟันแล้ว ยังเป็นที่มาของกลิ่นปากด้วย เพราะทำให้ปากแห้ง ดังนั้นควรลดปริมาณให้อยู่ที่วันละ 1-2 แก้ว และดื่มน้ำเปล่าตาม 1-2 แก้วต่อ 1 แก้วกาแฟ เพื่อไม่ให้ปากแห้งจนเกินไป

แบคทีเรียในช่องปาก มีทั้งตัวที่มีประโยชน์ และตัวที่ไม่ดี ซึ่งตัวที่ไม่ดีนี้เป็นตัวการทำให้เกิดกลิ่นปากได้ เช่น แบคทีเรียเอชไพโลไร เป็นแบคทีเรียที่สร้างกลิ่นปาก ซ่อนตัวอยู่ที่ลิ้น เพราะฉะนั้นเมื่อแปรงฟัน อย่าลืมแปรงลิ้นด้วยทุกครั้ง

การไม่ใช้ไหมขัดฟัน แค่การแปรงฟัน หรือบ้วนปากด้วยน้ำยานั้นอาจไม่พอ เพราะอาหารมักติดอยู่ตามซอกฟัน ซึ่งนั่นเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก เพราะฉะนั้นไม่ควรลืมใช้ไหมขัดฟันหลังอาหารอย่างสม่ำเสมอ

10 อาหารที่ส่งผลแย่ต่อกลิ่นปาก

●เนื้อย่างแบบที่ไม่ค่อยสุก เพราะจะเกิดการหมักหมมของแก๊สเน่าในกระเพาะ และส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์

●อาหารที่มีหัวหอมเป็นส่วนประกอบ ยกตัวอย่างเช่น หมูกรอบผัดพริกเผาใส่หัวหอม เป็นต้น

●น้ำพริกกะปิ ซึ่งการกินอาหารที่มีเคยหรือกะปิเป็นส่วนประกอบจะทำให้เรามีกลิ่นปากได้

●ผัดสะตอ การกินสะตอนั้นจะช่วยผลต่อกลิ่นปากได้โดยตรง ดังนั้นหลังกินเส็จเรียบร้อยแล้วควรรีบแปรงฟันครับ

●ผลไม้อย่างทุเรียน เนื่องด้วยความอร่อยของทะเรียนและสารอาหารที่มากล้นของเนื้อทุเรียนจะก่อให้เกิดแก๊สระบบทางเดินอาหารมากกว่าปกติได้ จึงก่อให้เกิดกลิ่นปากได้หากกินมากๆ และมีหลายท่านที่ไม่ชอบกลิ่นทุเรียน ดังนั้น ควรระมัดระวังและงดเว้นการกินทุเรียนหากต้องเดินทางในที่สาธารณะ

●น้ำจิ้มสุกี้ที่มีระเทียมเยอะๆ ถึงแม้กระเทียมจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่หากรับประทานมากๆ จะทำให้เรามีกลิ่นติดปากได้

●กุ้งดอง แซลม่อนดอง ถึงแม้ความอร่อยจะเป็นเลิศ แต่ของดองย่อมผ่านการหมักมาพอสมควร จึงทำให้อาจมีกลิ่นปากหลังกินได้

●ไข่เจียวชะอม เพราะชะอมเป็นพื่ชผักสวนครัวที่มีกลิ่นแรง จึงทำให้การรับประทานเข้าไปอาจก่อให้เกิดกลิ่นปากได้

●ชาหรือกาแฟ ซึ่งการกินในปริมาณมากๆ จะทำให้เกิดการสะสมของกินหูนปูนได้ ถ้าแปรงฟันไม่ดี จนสุดท้ายก่อให้เกิดกลิ่นปากได้นั้นเองครับ

●ส้มตำปลาร้า ซึ่งปลาร้าเป็นของอร่อยสำหรับใครหลายๆ คน แต่ก็มีกลิ่นที่เฉพาะตัว จึงมีทั้งคนชอบและไม่ชอบนั้นเองครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลที่เราได้นำมาฝาก หวังว่าจะชอบกันนะครับ

เช่าโกดัง กรุงเพ คุณสมบัติของโกดังให้เช่า มีอะไรบ้าง

เศรษฐกิจที่ก้าวหน้าในประเทศไทยส่วนใหญ่แล้วนั้นจะมาจากเมืองหลวงของประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก โกดังสินค้าจึงมีให้เลือกเป็นจำนวนมากด้วย เหมาะกับผู้ประกอบการทุกคนที่ต้องการโรงงานเพื่อใช้สำหรับการผลิต ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงการ เช่าโกดัง กรุงเทพ ซึ่งเป็นโกดังบางส่วนที่ได้รับความสนใจและได้ความนิยมจากผู้ประกอบการและนักธุรกิจ ว่ามีสถานที่แห่งใดบ้าง

เช่าโกดัง กรุงเทพ มีที่ใดบ้างที่ผู้ถูกใจเหล่าผู้ประกอบการ

เมื่อพูดถึงการ เช่าโกดัง กรุงเทพ จะมีสถานที่ให้เช่ามากมายที่น่าสนใจ พร้อมด้วยทำเลที่เหมาะต่อการทำธุรกิจรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งสามารถกล่าวได้ดังนี้

· โกดังให้เช่าริมทางด่วน ขนาดพื้นที่อยู่ระหว่าง 500-5000 ตารางเมตร ติดกับฉลองกรุง นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง พื้นที่จะให้เช่าให้กับลูกค้ารายย่อย ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง เริ่มต้นที่พื้นที่ 100 ตารางเมตร คิดค่าบริการต่อวันและฝากในรูปแบบพาเลท มีประตูเข้าออก 1 บาน มีความกว้างและยาวเป็น 6 x 6 เมตร และมี 1 ห้องน้ำ พื้นรองรับน้ำหนักได้ 2 ตันต่อตารางเมตร ชั้นของอาคารจะเปิดขึ้น มีเสาสูง 6 เมตร ศูนย์กลางของอาคารสูง 8 เมตร ความกว้างของถนนคือ 12 เมตร มีรปภ.ดูแลทุก 24 ชั่วโมง และลาดตระเวนรอบโครงการทุก 2 ชั่วโมง มีกล้องวงจรปิดรอบนอกอาคาร มีถังดับเพลิงทุกประตู ทุกอาคารมีพื้นที่กลับรถ ซึ่งรถบรรทุกและตู้คอนเทนเนอร์สามารถเข้าออกและกลับรถได้

· โกดังใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ใกล้เครื่อง ICD ข้างนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง มีขนาดเล็กถึงขนาดปานกลาง ให้เช่าสำหรับลูกค้ารายย่อย ขนาดพื้นที่โกดังสินค้าอยู่ระหว่าง 1,000-20,000 ตารางเมตร คิดรายวันและมัดจำในรูปแบบพาเลท มีประตูเข้าออก 1 บาน กว้างและยาวเท่ากับ 6 x 6 เมตร และมี 1 ห้องน้ำ พื้นรองรับน้ำหนักได้ 2 ตันต่อตารางเมตร ชั้นของอาคารจะเปิดขึ้น มีเสาสูง 6 เมตร ศูนย์กลางของอาคารสูง 8 เมตร ความกว้างของถนน 13 เมตร มีรปภ.ดูแลทุก 24 ชั่วโมง และลาดตระเวนรอบโครงการทุก 2 ชม. มีกล้องวงจรปิดรอบนอกอาคาร มีถังดับเพลิงทุกประตู ทุกอาคารมีพื้นที่กลับรถ ซึ่งรถบรรทุกและตู้คอนเทนเนอร์สามารถเข้าและออกได้

จากบทความที่กล่าวมานี้ทำให้รู้ว่ามี เช่าโกดัง กรุงเทพ ในทำเลที่ตั้งดี ๆ นั้นมีที่แห่งใดบ้าง จะเห็นได้ว่าโกดังในกรุงเทพ ฯ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยนั้นให้ประสิทธิภาพการทำงานสูงและมีรายละเอียดการเช่าที่ครบถ้วน จะมีขนาดพื้นที่และการใช้งานต่างกัน เข้าถึงได้และตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรม

ลดน้ำหนักอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพ ไม่โยโย่

หากว่ากันด้วยเรื่องของปัญหาในการลดน้ำหนักแล้ว คงไม่มีใครอยากมีภาวะ “โยโย่” หลังน้ำหนักลงกันอย่างแน่นอน นอกจากจะทำให้หนังยานหย่อนแล้ว อาจส่งผลเสียในระยะยาวแก่ร่างกายได้อีกด้วย วันนี้เราจึงจะขอพาทุกๆ ท่านไปพบกับวิธีการลดน้ำหนักที่ถูกต้องได้ประสิทธิภาพและทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการ “โยโย่” เพื่อเป็นความรู้ให้กับทุกๆ ท่านได้ปฎิบัติได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัยในการลดน้ำหนักต่อไปครับ

ภาวะ โยโย่ จากการลดน้ำหนักเป็นอย่างไร?

ภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ คือ ภาวะที่น้ำหนักตัวขึ้นๆ ลงๆ และสุดท้ายน้ำหนักตัวก็จะเพิ่มขึ้นจนมากกว่าก่อนเริ่มลดน้ำหนัก แม้จะควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายแล้วก็ตาม นั้นเป็นเพราะเนื่องจากร่างกายอยู่ในภาวะที่มีไขมันเกินร่วมกับมวลกล้ามเนื้อหายไป ทำให้ระบบการเผาผลาญเสียหาย ไม่สามารถเผาผลาญพลังงานอย่างที่ถูกที่ควรได้

สาเหตุของการเกิดภาวะ “โยโย่” 

อดอาหาร วิธีนี้น้ำหนักจะสามารถลดลงได้จริงในช่วงแรก เพราะมีการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อไป ซึ่งจะส่งผลเสียต่ออัตราการเผาผลาญ แต่เมื่อกลับมารับประทานตามปกติน้ำหนักก็จะกลับขึ้นมาเหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เนื่องจากกล้ามเนื้อซึ่งเป็นตัวช่วยเผาผลาญพลังงานมีมวลน้อยลง เมื่อลดน้ำหนักอีกครั้งก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก

มีพฤติกรรมการลดน้ำหนักที่ไม่ถูกต้อง ขาดการออกกำลังกาย โดยเฉพาะการใช้ยาลดความอ้วน สำหรับคนที่อายุยังน้อยและมีร่างกายแข็งแรง อาจจะยังไม่โยโย่ในการลดน้ำหนักครั้งแรก แต่หากยังฝืนลดน้ำหนักด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะรู้สึกได้ว่าการลดน้ำหนักยากขึ้นและจบลงด้วยภาวะน้ำหนักตัวโยโย่ในที่สุด

ลดน้ำหนักอย่างไรไม่ให้เกิดภาวะ “โยโย่”

ข้อควรรู้ที่สำคัญของการลดน้ำหนักที่ไม่ก่อให้เกิดโยโย่เอฟเฟกต์ มีดังต่อไปนี้
●พยายามลดไขมัน, รักษามวลกล้ามเนื้อให้คงที่และสร้างมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นขณะที่ลดน้ำหนัก
●พยายามอย่าอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งเพราะจะทำให้ระบบเผาผลาญเพี้ยนได้
●พยายามควบคุมปริมาณอาหารการกินในแต่ละมื้ออย่างเหมาะสมกับสภาพร่างกายและเปลี่ยนเป็นอาหารที่มีพลังงานต่ำ  นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารทอด ผัด และอาหารที่มีไขมันด้วยครับ
●พยายามออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอร่วมด้วยขณะลดน้ำหนัก 

5 วิธีเพื่อความยั่งยืนในการควบคุมและลดน้ำหนัก 

●ต้องมีความรู้และความเข้าใจในการลดน้ำหนัก ว่าไม่มีทางลัด ไม่มีวิธีเร่งด่วน ต้องใช้ระยะเวลาและความอดทน
●ยึดถือหลักการ “กินเข้าให้น้อยกว่าใช้ออกไป (Calorie In < Calorie Out)” และต้องสัมพันธ์กับกิจกรรมหรืองานที่ทำในระหว่างวันว่าพอดีหรือปล่าว
●รับประทานโปรตีนให้เพียงพอ เพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของความแข็งแรงของร่างกาย
●แบ่งเวลาออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที เป็นอย่างน้อย
●วางแผนและปรับให้มีพฤติกรรมการกินและการพักผ่อนให้เพียงพอ พยายามพาตัวเองไปอยู่ในสังคมที่มีสุขภาพดีเพื่อที่จะเป็นแรงจูงใจในการรักษาสุขภาพของเราครับ

นอกจากนี้เราควรหมั่นตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอ เช่น การชั่งน้ำหนักในแต่ละวัน การกิน การพักผ่อน เป็นต้น เพื่อติดตามผลความคืบหน้าว่าสิ่งที่เราทำนั้นได้ผลดีหรือไม่ หรือหากไม่ดีขึ้นอาจจะมีการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับแนะนำที่ดี ที่เหมาะกับร่างกายของแต่ละบุคคลครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “ลดน้ำหนักอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพ ไม่โยโย่” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในวันนี้ หวังว่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้ท่านสามารถลดน้ำหนักได้และไม่เกิดผลข้างเคียงได้นะครับ สุดท้ายนี้สิ่งที่สำคัญและจะเป็นแรงผลักดันตัวเราให้ทำได้สำเร็จมากที่สุดนั้นก็คือ “จิตใจ” ที่มุ่งมั่นนั้นเองครับ สู้ๆ ครับ