ลดน้ำหนักอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพ ไม่โยโย่

การออกกำลังกาย

หากว่ากันด้วยเรื่องของปัญหาในการลดน้ำหนักแล้ว คงไม่มีใครอยากมีภาวะ “โยโย่” หลังน้ำหนักลงกันอย่างแน่นอน นอกจากจะทำให้หนังยานหย่อนแล้ว อาจส่งผลเสียในระยะยาวแก่ร่างกายได้อีกด้วย วันนี้เราจึงจะขอพาทุกๆ ท่านไปพบกับวิธีการลดน้ำหนักที่ถูกต้องได้ประสิทธิภาพและทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการ “โยโย่” เพื่อเป็นความรู้ให้กับทุกๆ ท่านได้ปฎิบัติได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัยในการลดน้ำหนักต่อไปครับ

ภาวะ โยโย่ จากการลดน้ำหนักเป็นอย่างไร?

ภาวะโยโย่เอฟเฟกต์ คือ ภาวะที่น้ำหนักตัวขึ้นๆ ลงๆ และสุดท้ายน้ำหนักตัวก็จะเพิ่มขึ้นจนมากกว่าก่อนเริ่มลดน้ำหนัก แม้จะควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายแล้วก็ตาม นั้นเป็นเพราะเนื่องจากร่างกายอยู่ในภาวะที่มีไขมันเกินร่วมกับมวลกล้ามเนื้อหายไป ทำให้ระบบการเผาผลาญเสียหาย ไม่สามารถเผาผลาญพลังงานอย่างที่ถูกที่ควรได้

สาเหตุของการเกิดภาวะ “โยโย่” 

อดอาหาร วิธีนี้น้ำหนักจะสามารถลดลงได้จริงในช่วงแรก เพราะมีการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อไป ซึ่งจะส่งผลเสียต่ออัตราการเผาผลาญ แต่เมื่อกลับมารับประทานตามปกติน้ำหนักก็จะกลับขึ้นมาเหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เนื่องจากกล้ามเนื้อซึ่งเป็นตัวช่วยเผาผลาญพลังงานมีมวลน้อยลง เมื่อลดน้ำหนักอีกครั้งก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก

มีพฤติกรรมการลดน้ำหนักที่ไม่ถูกต้อง ขาดการออกกำลังกาย โดยเฉพาะการใช้ยาลดความอ้วน สำหรับคนที่อายุยังน้อยและมีร่างกายแข็งแรง อาจจะยังไม่โยโย่ในการลดน้ำหนักครั้งแรก แต่หากยังฝืนลดน้ำหนักด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะรู้สึกได้ว่าการลดน้ำหนักยากขึ้นและจบลงด้วยภาวะน้ำหนักตัวโยโย่ในที่สุด

ลดน้ำหนักอย่างไรไม่ให้เกิดภาวะ “โยโย่”

ข้อควรรู้ที่สำคัญของการลดน้ำหนักที่ไม่ก่อให้เกิดโยโย่เอฟเฟกต์ มีดังต่อไปนี้
●พยายามลดไขมัน, รักษามวลกล้ามเนื้อให้คงที่และสร้างมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นขณะที่ลดน้ำหนัก
●พยายามอย่าอดอาหารมื้อใดมื้อหนึ่งเพราะจะทำให้ระบบเผาผลาญเพี้ยนได้
●พยายามควบคุมปริมาณอาหารการกินในแต่ละมื้ออย่างเหมาะสมกับสภาพร่างกายและเปลี่ยนเป็นอาหารที่มีพลังงานต่ำ  นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงอาหารทอด ผัด และอาหารที่มีไขมันด้วยครับ
●พยายามออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอร่วมด้วยขณะลดน้ำหนัก 

5 วิธีเพื่อความยั่งยืนในการควบคุมและลดน้ำหนัก 

●ต้องมีความรู้และความเข้าใจในการลดน้ำหนัก ว่าไม่มีทางลัด ไม่มีวิธีเร่งด่วน ต้องใช้ระยะเวลาและความอดทน
●ยึดถือหลักการ “กินเข้าให้น้อยกว่าใช้ออกไป (Calorie In < Calorie Out)” และต้องสัมพันธ์กับกิจกรรมหรืองานที่ทำในระหว่างวันว่าพอดีหรือปล่าว
●รับประทานโปรตีนให้เพียงพอ เพื่อรักษามวลกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของความแข็งแรงของร่างกาย
●แบ่งเวลาออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที เป็นอย่างน้อย
●วางแผนและปรับให้มีพฤติกรรมการกินและการพักผ่อนให้เพียงพอ พยายามพาตัวเองไปอยู่ในสังคมที่มีสุขภาพดีเพื่อที่จะเป็นแรงจูงใจในการรักษาสุขภาพของเราครับ

นอกจากนี้เราควรหมั่นตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงอย่างสม่ำเสมอ เช่น การชั่งน้ำหนักในแต่ละวัน การกิน การพักผ่อน เป็นต้น เพื่อติดตามผลความคืบหน้าว่าสิ่งที่เราทำนั้นได้ผลดีหรือไม่ หรือหากไม่ดีขึ้นอาจจะมีการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับแนะนำที่ดี ที่เหมาะกับร่างกายของแต่ละบุคคลครับ

เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “ลดน้ำหนักอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพ ไม่โยโย่” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกันในวันนี้ หวังว่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้ท่านสามารถลดน้ำหนักได้และไม่เกิดผลข้างเคียงได้นะครับ สุดท้ายนี้สิ่งที่สำคัญและจะเป็นแรงผลักดันตัวเราให้ทำได้สำเร็จมากที่สุดนั้นก็คือ “จิตใจ” ที่มุ่งมั่นนั้นเองครับ สู้ๆ ครับ

You Might Also Like